เยี่ยมเยืยน - บ้านสวนร่มรื่น New Conservatory's Val Slater ที่เมือง Adelaid ใน South Australia

คราวนี้ เราจะพาคุณไปไกลสักหน่อย (ไกลมากต่างหาก) เพราะเราจะไปเยี่ยมสวนต้นไม้ที่บ้านแห่งหนึ่งของคุณ Val Slater ซึ่งอยู่ที่เมือง Adelaid ที่ South Australia .... ใครจะไปยกมือขึ้นนนนนนนน.......

เรือนเพาะชำด้านหลังบ้าน

คุณ Val Slater ท่านเป็นคนรักเฟินคนหนึ่ง อยู่ที่ เมือง Adelaid ผมได้มีโอกาสรู้จักกับคุณ Val Slater จาก Homepage ของ สมาคมเฟินออสเตเรียใต้ มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Fern Socity of South Australis Inc. โดยที่ผมได้เคยเมล์ไปสอบถามเกี่ยวกับเรื่องสปอร์และการเพาะสปอร์จากท่าน แม้จะยังไม่เคยเจอตัวจริงของท่าน ได้แต่ส่ง e-mail ไปคุยด้วยเท่านั้น แต่ก็สามารถสัมผัสรับรู้ได้ว่า ท่านเป็นคนที่ใจดีมาก และบอกได้เลยว่า ท่านเป็นคนที่มีทัศคติที่ดีต่อสิ่งรอบข้าง ทำให้ท่านเป็นคนที่มีความสุขมากคนหนึ่ง แนะนำตัวเจ้าของบ้านกันแล้ว คราวนี้ เราตามเธอเข้าไปดูโรงเรือนและต้นไม้ของเธอกันดีกว่า (คลิกที่แต่ละภาพ เพื่อไปดูภาพใหญ่ชัดกว่า Click to larger view) คุณ Val Slater เล่าให้เราฟัง ที่นี่ Adelaide อากาศในช่วงหน้าร้อน ทั้งแห้งแล้งและอากาศร้อนมาก สภาพแวดล้อมของบ้านจึงต้องทำให้ร่มรื่น เพื่อให้เฟินที่ปลูกอยู่ที่ได้ได้อย่างมีความสุข

อุณหภูมิสูงสุดในช่วงฤดูร้อนที่นี่ ราวๆ 40 องศา C หรืออาจสูงกว่านี้เล็กน้อย แต่ไม่บ่อยนัก ส่วนในช่วงกลางคืนของฤดูหนาว อุณหภูมิลดลงต่ำถึง 3 องศา C เป็นเรื่องปกติ หรืออาจสูงกว่านี้เล็กน้อย แต่ก็ยังไม่เคยถึงกับจุดเยือกแข็งสำหรับที่นี่ ( จุดเยือกแข็งที่ 0 องศา C)

เรือนเพาะชำส่วนนี้ อยู่ทางด้านหลังของบ้าน ซึ่งเพิ่งทำเสร็จได้ไม่นาน เพื่อนสนิทของเธอ ได้เรียกโรงเรือนใหม่นี้ว่า New Conservatry สำหรับหลังคานี้ มุงด้วยกระเบื้องลอนทำด้วยแผ่น โพลีคาร์บอเนต ที่นี่เรียกกันว่า Solatuff สามารถให้แสงลอดผ่านลงมาได้ และยังช่วยป้องกันรังสียูวี ได้ถึงร้อยละ 98 อีกด้วย

พื้นที่สำหรับปลูกต้นไม้ที่บ้านนี้ เป็นพื้นที่รูปยาว ขนาด กว้าง 8 ฟุต ( ~ 2.5 ม.) และยาง 30 ฟุต (~ 9 ม.) รั้วด้านหลังบ้าน เอาแผ่นพลาสติคอ่อนสีขาวมาต่อขึ้นไป รวมสูงถึง 9 ฟุต (~ 2.7 ม.) เพื่อช่วยรักษาความอบอุ่นเอาไว้และกันไม่ให้แสงส่องเข้ามาได้โดยตรง และทำให้พื้นที่บริเวณนี้สว่างได้เพียงพอ ส่วนผนังด้านข้างของตัวบ้าน ด้านทิศเหนือ ติดตั้งหลอดไฟที่ให้ความอบอุ่นได้ เหมาะสำหรับในฤดูหนาว ซึ่งมีแสงแดดน้อย ครึ่งหนึ่งของผนังด้านนี้ เป็นกระจกใส เพื่อให้สามารถมองเห็นบรรยากาศด้านนอกได้ดี

แผ่น Solastuff ที่นี่ ราคาสูงถึง 560 บาทต่อเมตร โชคดีที่มีเพื่อนคนหนึ่งมาช่วยติดตั้งให้ ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้บ้าง ใช้ระยะเวลาในการติดตั้งถึง 2 เดือน หลังจากที่ติดตั้งเสร็จแล้ว เห็นได้ชัดว่า ต้นไม้ที่นี่ เจริญเติบโตได้ดี เมื่อมีแสงแดดส่องลงมา ช่วยลดอุณหภูมิลงให้ต่ำกว่าข้างนอกได้ถึง 5 องศา C นอกจากนี้ ยังติดตั้งระบบรดน้ำแบบเป็นฝอย อย่างที่เราเรียกกันว่า สปริงเกอร์ เอาไวอีกด้วย เพื่อคอยรักษาความชื้นของพื้นที่ปลูกต้นไม้ไว้อีกด้วย

คุณ Val Slater พาเราเดินต่อไปจนสุดทางเท้าที่ปูด้วยแผ่นคอนกรีต ทางซ้ายมือ ก็จะเป็นดรงเรือนต้นไม้อีกส่วน เธอจัดวางได้ดีมาก ต้นไม้ก็เยอะมากด้วย แต่ดูไม่รกระเกะระกะเลย ต้นไม้ทุกต้นจัดวางได้ลงตัว ทั้งไม้ใบและไม้ดอก แต่ที่เยอะที่สุดก็เห็นจะเป็นเฟิน คุณ Val Slater เล่าให้ฟังอีกว่า เฟินเกือบทุกต้นที่นี่ เป็นเฟินที่เธอเพาะจากสปอร์ขึ้นมาเอง มีน้อยมากที่ซื้อเข้ามา หรือมีคนนำมาให้ เฟินที่เธอชอบ ส่วนมากจะเป็นเฟินที่มีขนาดกลางถึงเล็ก เธอไม่ชอบเฟินต้นใหญ่ๆ อย่างพวก Tree Fern เพราะเปลืองเนื้อที่ แต่ก็มีปลูกอยู่บ้างไม่กี่ต้น ต่างจากเพื่อนสนิทของเธอที่ชื่อ Keith ผู้ได้รับฉายามนามจากนักปลูกเฟินทั่วโลกว่า Tree Fern and Platys Man ซึ่งผมจะได้แนะนำให้รู้จักภายหลัง

นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่ปลูกต้นไม้ตรงโรงรถอีกส่วน พื้นส่วนนี้เป็นเรือนเพาะชำเล็กๆ สำหรับต้นไม้เล้ก ที่ไม่สามารถทนต่อสภาพอากาศหนาวเย็น ซึ่งส่วนนี้ได้ติดตั้งเส้นลวดความร้อนเอาไว้ด้วย สำหรับปรับอุณหภูมิให้อบอุ่นในฤดูหนาว มีหลอดไฟแบบ grow light และหลอดไฟสีขาวธรรมาดาอีกอย่างละหลอดด้วย เปิดให้แสงกับต้นไม้วันละ 14 ชั่วโมง ขนาดของพื้นที่ส่วนนี้ ขนาด ยาง 175 ซ.ม. x กว้าง 85 ซ.ม. ปรับอุณหูมิตลอดช่วงกลางคืน ให้อยู่ที่ 10 องศา และ ช่วงกลางวัน 25 องศา ด้านข้างของเรือนเพาะชำเล็กๆ นี้ เธอปลูก Tree Fern เอาไว้ ต้นมันสูงใหญ่มาก หลังคาต้องเว้นช่องเอาไว้ เพื่อให้ต้นโตขึ้นไปได้

เรามีภาพต้นไม้ที่ถ่ายจากที่บ้านของคุณ Val มาฝากให้ชมกันบางต้น อย่างภาพทางขวามือนี่ เป็นเฟินชายผ้าสีดา Platycerium bifurcatum cv. Mt. Lewis ที่ปลูกอยู่ที่นี่มานานหลายปีแล้ว ต้นนี้ สวยและสมบูรณ์มาก คาดว่าในเมืองไทยบ้านเรา คงยังไม่มีใครที่มีต้นใหญ่ได้ขนาดนี้ ส่วนต้นทางซ้าย เป็นเฟินใบมะขามชนิดหนึ่งในสกุล Nephrolepis ปลูกใส่กระถางแขวนเอาไว้ ภาพนี้ เป็นดอกกล้วยไม้ ที่ถ่ายจากต้นที่บ้านนี้

Platycerium bifurcatun cv. Mt. Lewis

ต่อไป เรามาทำความรู้จักกับสมาคมเฟิน ที่เธอเคยเป็นผู้บริหารที่นี่อยู่นานถึง 13 ปี กันต่อนะครับ (ปัจจุบันเธอได้ลาออกจากผู้บริหารสมาคมเฟินนี้แล้ว)

ไปเยี่ยมชม Homepage ของสมาคม Fern Socitiy of Sourth Australia Inc. ที่ homepage นี้ นอกจากจะได้รู้จักกับสมาคมเฟินแห่งนี้ได้ดีขึ้นแล้ว ยังมีข้อมูลเฟินดีๆ อีกมากมายและน่าสนใจ
และด้วยอภินันทนาการจากทางสมาคม ทางเราได้รับภาพบรรยากาศ การจัดงานมหกรรมเฟิน ปี 2002 มาให้พวกเราได้ดูด้วย ลองไปดูกันเลยครับ